Hamlet Wind Watch Lifestyle อาหารประเภทที่ศูนย์ดูแลผู้ป่วยติดเตียงต้องมี

อาหารประเภทที่ศูนย์ดูแลผู้ป่วยติดเตียงต้องมี


ศูนย์ดูแลผู้ป่วยติดเตียง

ผู้ป่วยติดเตียงเป็นผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ในทุกด้าน จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดทั้งด้านร่างกายและจิตใจ อาหารจึงเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ป่วยมีสุขภาพที่ดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดี 

ศูนย์ดูแลผู้ป่วยติดเตียงควรมีอาหารประเภทต่อไปนี้ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารครบถ้วนและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

  • อาหารประเภทโปรตีน โปรตีนเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างและซ่อมแซมเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย ผู้ป่วยติดเตียงควรได้รับโปรตีนอย่างน้อย 1.2 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ตัวอย่างอาหารประเภทโปรตีน ได้แก่ เนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่วเมล็ดแห้ง
  • อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต คาร์โบไฮเดรตเป็นสารอาหารที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย ผู้ป่วยติดเตียงควรได้รับคาร์โบไฮเดรตอย่างน้อย 1.5 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ตัวอย่างอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต ได้แก่ ข้าว แป้ง เผือก มันฝรั่ง
  • อาหารประเภทไขมัน ไขมันเป็นสารอาหารที่ให้พลังงานแก่ร่างกายและช่วยดูดซึมวิตามินบางชนิด ผู้ป่วยติดเตียงควรได้รับไขมันดีอย่างน้อย 20% ของปริมาณพลังงานที่ได้รับทั้งหมด ตัวอย่างอาหารประเภทไขมันดี ได้แก่ น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว อะโวคาโด
  • อาหารประเภทผักและผลไม้ ผักและผลไม้เป็นแหล่งของวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร ภายในศูนย์ดูแลผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยควรรับประทานผักและผลไม้อย่างน้อย 500 กรัมต่อวัน ตัวอย่างผักและผลไม้ ได้แก่ ผักใบเขียว ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผลไม้รสเปรี้ยว

นอกจากนี้ ศูนย์ดูแลผู้ป่วยติดเตียงควรคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ ในการจัดทำเมนูอาหาร เช่น

  • ความเหมาะสมกับสภาพร่างกายและโรคประจำตัวของผู้ป่วย ผู้ป่วยบางโรคอาจมีข้อจำกัดในการรับประทานอาหารบางประเภท เช่น ผู้ป่วยโรคไตควรจำกัดการรับประทานโปรตีน ผู้ป่วยโรคหัวใจควรจำกัดการรับประทานไขมัน เป็นต้น
  • ความสะดวกในการรับประทาน ผู้ป่วยติดเตียงอาจไม่สามารถรับประทานอาหารได้เอง ดังนั้น อาหารควรมีลักษณะที่ง่ายต่อการเคี้ยวและกลืน
  • ความน่ารับประทาน ผู้ป่วยควรรับประทานอาหารที่อร่อยและน่ารับประทาน เพื่อให้เกิดความรู้สึกอยากรับประทานอาหาร

ศูนย์ดูแลผู้ป่วยติดเตียงควรมีทีมโภชนาการที่มีความรู้และประสบการณ์ ในการจัดทำเมนูอาหารที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้ป่วย เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารครบถ้วนและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย